หลังจากที่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้สร้างปรากฏการณ์สั่นสะเทือนตลาดโซเชียลมีเดียไปแล้วระลอกใหญ่ล่าสุดในช่วงต้นเดือนเมษายน Clubhouse แพลตฟอร์ม Audio Communication ก็หวังสร้างการเติบโตไปอีกขั้นด้วยการประกาศว่าพวกเขากำลังจะปล่อยฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า “Clubhouse Payment” ออกมา
โดยฟีเจอร์ Clubhouse Payment ก็คือฟีเจอร์ที่จะทำให้คุณสามารถมอบทิปในรูปแบบของเงินให้กับผู้จัดรายการหรือ Creator ที่คุณชื่นชอบ ถูกใจ ได้ง่าย ๆ ผ่านตัวแพลตฟอร์มของ Clubhouse ได้เลย ซึ่งเงินที่เหล่า Creator จะได้นั้นจะไม่มีการหักเปอร์เซนต์ใด ๆ ด้วยเรียกว่าเป็นการส่งกำลังใจจากผู้ฟังสู่ Creator ได้เป็นอย่างดี
แต่ในขณะเดียวกันทาง Clubhouse หลังจากปล่อยข่าวดีในเรื่องของการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ออกมาแล้ว ก็ยังแถม “ข่าวร้าย” ของผู้ใช้งานบางกลุ่มด้วยนั่นก็คือประกาศการเลื่อนปล่อยแอปพลิเคชัน Clubhouse สำหรับเวอร์ชัน Andriod ออกไปอีกพักใหญ่ราว 3-4 เดือนเนื่องจากปัญหาด้านการพัฒนาระบบที่ยังทำได้ไม่ดีพอ ซึ่งเวลานานขนาดนี้ฝั่งผู้ใช้งาน Android คงเกิดคำถามแล้วว่าสำหรับการใช้งาน Clubhouse เราควรจะ “รอหรือพอ?”
ในบทความนี้ทาง The Growth Master ได้สรุปความเคลื่อนไหวทั้งหมดของ Clubhouse ในช่วงนี้พร้อมรายละเอียดเรื่องราวทั้งหมดมาให้คุณติดตามกันแล้ว
รู้จักฟีเจอร์ Clubhouse Payment ฟีเจอร์ใหม่ของ Clubhouse กำลังใจของเหล่า Creator บนแพลตฟอร์ม
ฟีเจอร์ Clubhouse Payment คือฟีเจอร์ใหม่ของ Clubhouse ที่จะสามารถทำให้ผู้ฟังที่อยู่ในห้องสามารถกดให้ทิปในรูปแบบของเงินให้กับเหล่าผู้จัดรายการบนแพลตฟอร์มที่คุณชื่นชอบได้ โดยมีขั้นตอนง่าย ๆ ด้วยการกดปุ่ม Send Money พร้อมระบุจำนวนเงินที่คุณต้องการมอบให้ครีเอเตอร์คนนั้น โดยทาง Clubhouse จะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมอะไรจากฟีเจอร์นี้ นั่นเท่ากับว่าเงินที่คุณมอบให้ครีเอเตอร์ พวกเขาจะได้รับเงินนั้นแบบเต็มจำนวน
ซึ่งในวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมาทาง Clubhouse ได้ปล่อยแถลงการณ์เรื่องนี้ออกมาผ่านทาง Official Website ของตนเองเกี่ยวกับลักษณะการใช้งานของฟีเจอร์ Clubhouse Payment นี้โดยมีใจความทั้งหมดดังนี้
สำหรับการใช้งานฟีเจอร์ Clubhouse Payment คุณสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ผ่าน 3 ขั้นตอนเริ่มต้นที่ ขั้นตอนแรกเข้าไปที่หน้า Profile ของครีเอเตอร์ที่คุณชื่นชอบหรือต้องการที่จะส่งทิปให้พวกเขา จากนั้นระบบจะมีปุ่ม Send Money ปรากฏขึ้นมาด้านล่างของหน้า Profile (ตามรูปด้านบน) เมื่อกดเข้าไปในครั้งแรกระบบก็จะมีการให้กรอกรายละเอียดข้อมูลของการชำระเงิน เช่นบัตรเครดิต รหัสยืนยันตัวตน เหมือนกับเวลาเราจะผูกบัตรเครดิต, เดบิตกับแอปพลิเคชันทั่วไป
และเมื่อคุณกรอกรายละเอียดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถใส่จำนวนเงินที่ต้องการมอบทิปให้เหล่าครีเอเตอร์ได้เลย ซึ่งครีเอเตอร์จะได้รับเงินที่คุณมอบให้แบบเต็มจำนวน ทาง Clubhouse จะไม่มีการหักค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ทาง Clubhouse ก็ระบุทิ้งท้ายว่าบางบัตรเครดิต บางธนาคารอาจมีการหักค่าธรรมเนียมเล็กน้อยเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถใช้งานฟีเจอร์ Clubhouse Payment ในการมอบทิปให้แก่เหล่าครีเอเตอร์ได้แล้ว
ซึ่งการที่ Clubhouse ได้สร้างฟีเจอร์ลักษณะนี้ขึ้นมาคาดการณ์ว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างความสำคัญและดึงดูดให้เหล่าครีเอเตอร์, ผู้สร้างคอนเทนต์ หันมาสร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์ม Clubhouse มากขึ้น โดยทาง Clubhouse ก็มีการแย้มออกมาด้วยว่านี่เป็นเพียงแค่ฟีเจอร์แรกสำหรับการสร้างฟีเจอร์เพื่อมอบเงินให้แก่ครีเอเตอร์ของพวกเขา ยังมีไอเดียของฟีเจอร์อีกมากมายที่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและเตรียมจะปล่อยออกมาสร้างการเติบโตอีกในอนาคตอันใกล้
สำหรับฟีเจอร์ Clubhouse Payment จอนนี้ได้ถูกปล่อยให้ทดลองใช้ในประเทศกลุ่มตัวอย่างแล้ว (ยังไม่มีประเทศไทย) แต่คาดว่าทาง Clubhouse น่าจะใช้เวลาอีกสักพักในการพัฒนาระบบถึงจะเริ่มปล่อยให้ผู้ใช้งานเริ่มใช้งานฟีเจอร์นี้ได้จากทั่วโลก
แต่ทั้งนี้ Clubhouse ก็อาจจะต้องรีบหน่อยเพราะในปัจจุบันแพลตฟอร์มเบอร์ 1 อย่าง Facebook ก็มีฟีเจอร์ที่มีลักษณะการทำงานที่ใกล้เคียงกัน (ที่ปล่อยมาได้พักใหญ่แล้ว) อย่าง Facebook Stars ที่ให้ผู้ชม Stream Video Content บนแพลตฟอร์มสามารถส่ง Stars ให้แก่ครีเอเตอร์ได้ โดย Stars มากน้อยเพียงใดก็คือจำนวนเงินที่ครีเอเตอร์จะได้รับนั่นเอง ซึ่งฟีเจอร์นี้เองก็ใช้งานได้ในประเทศไทยและกำลังเป็นที่นิยมจากเหล่า Content Creator หรือ Streamer มากมายในการสร้างรายได้บนแพลตฟอร์ม คราวนี้เราก็ต้องมาดูว่า Clubhouse จะสามารถแย่งพื้นที่สร้างรายได้ของครีเอเตอร์ทั้งหลายจาก Facebook ได้มากน้อยเพียงใด
เมื่อ Clubhouse ยังไม่รองรับการใช้งานใน Android สักทีแถมเลื่อนกำหนดการปล่อยออกไปอีกหลายเดือน
จากฟีเจอร์ใหม่ของ Clubhouse ที่กล่าวมาแม้จะดูมีความน่าสนใจ แต่ตัดกลับมาที่ภาพปัจจุบัน Clubhouse ยังเจอกับปัญหาเดิมจากตอนแรกนั่นก็คือ Clubhouse ยังไม่สามารถรองรับการใช้งานผ่านระบบปฏิบัติการ Android ได้สักที ซึ่งปัญหานี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ของ Clubhouse ที่ทำให้พวกเขามีตัวเลขผู้ใช้งานยังไม่เยอะมากเท่าที่ควร แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็มีข่าวลือหรือกระแสออกมาตลอดว่า Clubhouse เวอร์ชัน Android จะถูกปล่อยออกมาภายในเดือนนี้บ้าง สัปดาห์หน้าบ้าง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะเป็นจริงสักที
โดยเรื่องนี้เองฝั่งผู้ใช้งาน Android ที่เฝ้ารอคอยการมาของ Clubhouse ต่างก็พากันตั้งคำถามว่าแล้วเมื่อไรพวกเขาถึงจะได้รับประสบการณ์การใช้งานของ Clubhouse บ้าง ประเด็นนี้ถูกนำออกมาพูดถึงอีกครั้งผ่าน Paul Davison หนึ่งใน Founder ของ Clubhouse ก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า การมาของ Clubhouse เวอร์ชัน Android นั้นอาจจะต้องใช้เวลาในการรอคอยอีกหลายเดือน ยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้แน่นอน หรือถ้าคำนวนแบบเป็นระยะเวลาก็อาจจะได้ใช้กันช่วงกลางปีหรือหลังจากนั้นเลย
สื่อหลายสำนักคาดการณ์ว่าสาเหตุที่เวอร์ชัน Android ของ Clubhouse มีความล่าช้ากินระยะเวลามาหลายเดือนก็เพราะว่าพวกเขาใช้ระยะเวลาในการพัฒนาแอปพลิเคชันของเวอร์ชัน Andriod เป็นพิเศษพร้อมทั้งทางตัวของ Paul Davison เองก็ไม่อยากไปเร่งทีมให้รีบพัฒนา เพราะกลัวว่าจะพบกับข้อผิดพลาดได้ง่ายเมื่อปล่อยเวอร์ชัน Android ไปแล้ว ตอนนี้ทางทีมของ Clubhouse กำลังพัฒนาการใช้งานในเวอร์ชัน iOS อย่างเต็มที่อยู่เพื่อประโยชน์ในพัฒนาแอปพลิเคชันในอนาคต
และนอกจาก Clubhouse เวอร์ชัน Android ที่ตอนนี้ก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่าไม่ใช่เร็ว ๆ นี้แน่นอนอีกเวอร์ชันที่ทาง Clubhouse ออกมายืนยันอีกเช่นกันว่ายังไม่ได้มีแผนจะพัฒนานั่นก็คือเวอร์ชัน Desktop (หรือเวอร์ชันสำหรับคอมพิวเตอร์) ที่ทาง Paul Davison ออกมาย้ำสั้น ๆ ว่าตอนนี้ยังไม่สนใจที่จะทำ
ซึ่งจากการชี้แจงในครั้งนี้ในฐานะผู้ใช้งานอย่างเราก็ไม่มีอะไรมาการันตีได้เลยว่า Clubhouse จะได้รับความนิยมเหมือนตอนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพราะในปัจจุบันหากเราเข้าไปดูในแอปพลิเคชันนี้จะพบว่าตัวเลขผู้กดเข้ามาฟังการสนทนาในห้องต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มถ้าสังเกตุด้วยตาเปล่าถือว่าน้อยลงจากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ไปพอสมควร อีกทั้งถ้าคุณได้ลองตามข่าวสารเกี่ยวกับ Clubhouse ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาจะพบว่ามีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียตัวอื่น ๆ เริ่มผลิตฟีเจอร์แบบเดียวกันกับ Clubhouse ออกมา
โดยเริ่มตั้งแต่ที่ดูเป็นรูปเป็นร่างสุดอย่าง Spaces ของ Twitter ที่กำลังจะเปิดฟีเจอร์นี้ให้ใช้บริการในช่วงเดือนนี้ , Facebook ที่ Mark Zuckgerberg ออกมาบอกเองว่ากำลังจะทำฟีเจอร์แนวนี้บนแพลตฟอร์มตนเองรวมไปถึงผู้เล่นอื่น ๆ อย่าง Discord ที่เปิดฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Stage (การใช้งานเหมือน Clubhouse), Spotify ที่มีความคิดอยากจะเพิ่มฟีเจอร์ Social Audio ลงใน Spotify Podcast, TikTok ที่บริษัทแม่อย่าง ByteDance กำลังพัฒนาแอปพลิเคชันแนวเดียวกับ Clubhouse เจาะตลาดจีน หรือแม้แต่ล่าสุดที่ยืนยันมาอีกเจ้าอย่าง LinkedIn แพลตฟอร์มหางานก็กำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่มีความสามารถเหมือน Clubhouse ออกมาเจาะตลาดคนวัยทำงานโดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นฟีเจอร์ที่จะพูดคุยในเรื่องของการพัฒนาทักษะอาชีพและเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานเป็นต้น ดูแล้ว Clubhouse มีแพลตฟอร์มใหญ่จ้องเล่นงานอยู่เยอะขนาดนี้ หวังว่าอนาคตคงต้องรีบพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อแข่งขันกับเจ้าอื่น ๆ สักหน่อยแล้วล่ะ
สรุปทั้งหมด
จากสถานการณ์ที่กล่าวไปทั้งหมดในบทความถึงแม้ Clubhouse จะเร่งมือพัฒนาสร้างสรรค์ฟีเจอร์ใหม่ออกมาได้อย่างไร แต่เราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในตลาด Social Audio ตอนนี้กำลังระอุมากจริง ๆ แพลตฟอร์ม Social Media หลากเจ้าเริ่มเห็นความสำคัญของตลาดนี้กันมากขึ้น ต้องจับตาดูให้ดีว่ากลยุทธ์การให้ความสำคัญกับครีเอเตอร์ที่ Clubhouse ใช้งานอยู่นั้นจะสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่งให้พวกเขาได้มากแค่ไหน
นอกจากนั้นเรายังคงต้องติดตามต่อไปว่า Clubhouse สำหรับเวอร์ชัน Android จะกินระยะเวลานานแค่ไหนกว่าจะปล่อยเวอร์ชันนี้ออกมา แล้วในตอนนั้น Clubhouse จะยังได้รับความนิยมอยู่ไหมหรือพวกเขาจะกลายเป็นเพียง “อดีต” แอปพลิเคชันขวัญใจของใครหลาย ๆ คนเวลาเท่านั้นที่จะให้คำตอบเราได้