ChatGPT คืออะไร? พร้อมแนะนำวิธีการนำ ChatGPT มาใช้ในการทำ Marketing

รู้หรือไม่ว่าความสามารถของ ChatGPT ทำได้มากกว่าแค่การค้นหาบน Google หรือการพูดคุยโต้ตอบเหมือน Chatbot ทั่วไป เพราะ ChatGPT สามารถทำได้ตั้งแต่การจุดประกายไอเดีย, คิด Topic, เขียนคอนเทนต์ ไปจนถึงขั้นเขียนโค้ดหรือแก้บัคก็ได้ ซึ่งทำให้หลายคนชื่นชอบเป็นอย่างมาก และนักการตลาดหลายคนก็นำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี

ในบทความนี้ The Growth Master เลยจะขอพาทุกคนพาไปรู้จักกับ ChatGPT กันให้มากขึ้น พร้อมไปดูกันว่า ChatGPT สามารถนำมาทำอะไรได้บ้างกับการทำ Marketing

ChatGPT คืออะไร?

ChatGPT (Chatbot Generative Pre-trained Transformer) คือ ระบบ AI Chatbot หรือปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถโต้ตอบสื่อสารผ่านข้อความกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ พัฒนาขึ้นโดยบริษัท OpenAI หรือห้องแล็บวิจัยปัญญาประดิษฐ์ ที่มีผู้ร่วมก่อตั้งหลัก ๆ คือ Sam Altman ประธาน Y Combinator ศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัปรายใหญ่ของโลก, Elon Musk และคนอื่น ๆ อีกหลายคน ได้ร่วมลงทุนกันหลักพันล้านดอลลาร์ เพื่อก่อตั้งแล็บแห่งนี้ขึ้นมา 

ถึงแม้ว่า ChatGPT จะถูกเปิดตัวขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 ที่ผ่านมา แต่ความสามารถของ ChatGPT กลับสามารถสร้างความฮือฮาไปทั่วโลก และเป็นกระแสอย่างรวดเร็ว จนกวาดผู้ใช้งานทะลุ 1 ล้านคน ภายในระยะเวลา 5 วันเท่านั้น และปัจจุบัน ChatGPT มียอด Monthly Active Users ทะลุกว่า 616 ล้านคนไปเรียบร้อยแล้ว (สามารถทดลองใช้งาน ChatGPT ได้ ที่นี่)

ChatGPT กับ Marketing

ทุกวันนี้นักการตลาดหลายคนก็นำ ChatGPT มาใช้ในการทำ Marketing โดย Simon Kingsnorth อดีตนักการนักตลาดมากประสบการณ์จาก Citi Bank และ Vodafone ได้ทำการสำรวจออกมาว่านักการตลาดนำ ChatGPT ไปทำอะไรกันบ้าง จากสถิติสรุปออกมาได้ดังนี้

• 45% นำมา Generate เพื่อสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ 
• 21% นำมาเขียน Copywriting เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าและบริการ
• 17% นำมาช่วยวางแผนในการทำ Marketing
• 14% นำมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า

ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้นักการตลาดจำนวนไม่น้อยเลยที่นะ ChatGPT มาใช้ในการทำงานในด้านต่าง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ แต่นอกจากเป็นแหล่งไอเดียแล้ว ChatGPT สามารถนำมาทำอะไรในการทำการตลาดได้อีกบ้าง ไปดูกันต่อได้เลย

วิธีการนำ ChatGPT มาใช้ในการทำ Marketing

คิดหัวข้อคอนเทนต์

ความสามารถในการคิดหัวข้อคอนเทนต์นี้ถือว่าถูกใจนักการตลาดสายคอนเทนต์มาก ๆ เลย เพราะเวลาที่เราคิดไม่ออกว่าจะเขียนคอนเทนต์อะไรดี ChatGPT ก็เป็นหนึ่งในแหล่งไอเดียชั้นเยี่ยมในการช่วยคิด Topic คอนเทนต์ให้เราได้ด้วย 

โดยเราอาจจะใช้คำสั่งว่า ‘Generate topic contents about [เรื่องที่เราต้องการหา]’ จากนั้นเจ้า ChatGPT ก็จะคิด Topic มาให้เราเพียบเลย สำหรับใครที่ต้องการไอเดียที่แปลกใหม่ ก็สามารถลองเอา ChatGPT ไปเป็นตัวช่วยในการทำงานกันดูได้นะคะ

นอกจากนี้ ถ้าเราอยากได้ลิสต์คีย์เวิร์ดสำหรับเขียนคอนเทนต์ SEO ก็ให้ใส่คำสั่ง ‘Give me some keyword lists related to [คำที่เราต้องการ] for SEO’ ไป ChatGPT ก็จะ Generate ตัวอย่างคีย์เวิร์ดมาให้เรา ดังเช่นรูปภาพข้างล่างนี้

ข้อจำกัดของ ChatGPT ในการหาคีย์เวิร์ด

การใช้ ChatGPT เพื่อช่วยหาคีย์เวิร์ด SEO ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทรงพลังเทียบเท่ากับการใช้ SEO Tools เฉพาะทางจริง ๆ อย่าง Ubersuggest, KWFinder, Moz ฯลฯ

เพราะในการทำ SEO เราควรที่จะต้องมีการทำ Keyword Research เพื่อดูว่าคีย์เวิร์ดเหล่านั้นมี Search Volume จำนวนเท่าไร, ดูคะแนน SEO Difficulty ว่ามีมาก-น้อยเพียงใด, คำนั้นเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากพอที่เราจะนำมาทำ SEO หรือเปล่า 

ทางที่ดีเราควรนำคีย์เวิร์ดที่ได้รับมาจาก ChatGPT มาทำควบคู่กันไปทำการทำ Keyword Research บน SEO Tools ด้วย จึงจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์กลับมาได้ดีที่สุด

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง:

• เปรียบเทียบ 3 SEO Tools สุดฮิต: Moz vs. KWFinder vs. UberSuggest

เขียนคอนเทนต์ SEO

นอกจากจะคิด Topic ให้แล้ว ก็ยังสามารถเขียนคอนเทนต์ได้ด้วย ไม่ใช่เพียงเฉพาะแต่คอนเทนต์ภาษาอังกฤษเท่านั้น ไม่ว่าจะภาษาไหน ๆ เจ้าระบบ AI Chatbot นี้ก็ช่วยเราได้ เช่น ภาษาไทย, ภาษาจีน, ภาษาเกาหลี, ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาสเปน, ภาษาฝรั่งเศส ฯลฯ

โดยเราก็ลองให้ ChatGPT เขียนคอนเทนต์ภาษาไทยออกมา โดยเขียนคำสั่งว่า ‘Write a content ChatGPT in Thai’ เจ้าระบบ AI Chatbot นี้ก็สามารถทำได้ดีเลยทีเดียว และภาษาไทยก็เขียนได้ค่อนข้างเป็นธรรมชาติกว่าในช่วงแรกที่เปิดตัวอีกด้วย

และที่สำคัญ มีคนเคยลองให้ ChatGPT เขียนคอนเทนต์แล้วนำไป Publish ลงบนเว็บไซต์จริง ๆ ผลปรากฏว่าคอนเทนต์นั้นติด SEO ด้วย เรียกได้ว่ามีฝีมือไม่แพ้กับมนุษย์จริง ๆ เลย

ข้อจำกัดของ ChatGPT ในการเขียนคอนเทนต์ SEO 

การใช้ ChatGPT เขียนคอนเทนต์ก็ยังมีข้อจำกัดตรงที่ Database ข้อมูลยังมีถึงแค่ปี 2021 เท่านั้น ทำให้ใครอยากเขียนคอนเทนต์ในเรื่องใหม่ ๆ หรือเทรนด์ใหม่ ๆ อาจจะยังไม่ดีเท่ากับการที่ใช้มนุษย์เขียนเอง

นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้รับจาก ChatGPT ก็อาจไม่ถูกต้อง 100% และภาษาอาจจะไม่ได้ธรรมชาติเหมือนมนุษย์เขียนจริง ๆ ในทุกคอนเทนต์ ดังนั้นนักการตลาดทุกคนควรที่จะนำข้อมูลที่ได้มาตรวจสอบความถูกต้อง รวมถึงปรับภาษาการเขียนให้เป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วย เพื่อไม่ให้คนอ่านเสียประสบการณ์ในการอ่าน

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง:

• SEO คืออะไร ? เปิดคัมภีร์ SEO ฉบับอัปเดตปี 2023 อธิบายแบบเข้าใจง่าย จบในบทความเดียว

เขียน Copywriting

การเขียน Copywriting ก็มาคู่กับนักการตลาด เพื่อกระตุ้นให้คนอยากซื้อสินค้าหรือบริการของเรา ซึ่ง ChatGPT ก็สามารถเขียน Copywriting ได้ด้วย และ Copywriting ของ ChatGPT ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว

จากตัวอย่างเราลองให้เขียน Copywriting เกี่ยวกับแชมพู และนี่คือผลงานจาก ChatGPT

แนะนำกลยุทธ์การทำการตลาด

ChatGPT โดดเด่นในเรื่องของการให้ไอเดียกับเราเพื่อไปต่อยอดในการทำสิ่งต่าง ๆ เช่นเดียวกับการทำกลยุทธ์ทางการตลาด ซึ่ง ChatGPT ก็ช่วยจุดประกายไอเดียให้เราได้ด้วย เช่น ลองถาม ChatGPT ว่า ‘เราจะเพิ่ม Lead ให้ธุรกิจ Digital Agency จาก 0 ไป 100 คนใน 3 เดือนได้อย่างไรบ้าง’ 

และนี่คือสิ่งที่ ChatGPT ตอบเรามา เช่น

• กำหนด Target Audience ของเราให้ชัดเจน เพราะกำหนดกลุ่มเป้าหมายจะทำให้เราเข้าใจพวกเขามากขึ้น จนสามารถเปลี่ยนให้เขามาเป็นลูกค้าได้ในที่สุด
• ให้สร้าง Lead Magnet ขึ้นมา เช่น การแจก E-book (Lead Magnet = กลยุทธ์อย่างหนึ่งของ Inbound Marketing โดยใช้คอนเทนต์เป็นตัวดึงความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย และเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นลูกค้าในที่สุด)
• Optimize เว็บไซต์สำหรับ Lead เช่น มีการใส่ CTA ที่ชัดเจน, มีการสร้างหน้า Landing Page สำหรับ Lead โดยเฉพาะ เป็นต้น

ซึ่งใครที่กำลังต้องการตัวช่วยในการเพิ่ม Lead ในตอนนี้ การใช้ ChatGPT ก็อาจเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มีประโยชน์และจุดประกายไอเดียให้คุณคิดกลยุทธ์การตลาดได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง:

• Lead Generation Hacks: 5 ตัวอย่างกลยุทธ์การเพิ่มรายชื่อว่าที่ลูกค้าอย่างรวดเร็ว

เขียนโค้ด / แก้บัค

แม้ว่านักการตลาดส่วนใหญ่จะไม่ต้องเขียนโค้ด แต่บางคนก็อาจต้องมีสกิลการเขียนโค้ดติดตัว เพราะต้องมีการติด JavaScript Tag บนหน้าเว็บไซต์ หรือการปรับหน้า UI ง่าย ๆ ด้วย HTML หรือ CSS

และ ChatGPT ถือว่าเป็นอัจฉริยะในด้านการเขียนโค้ดและแก้บัคด้วย โดยหากว่าเราเขียนโค้ดมาแล้วรันโค้ดไม่ผ่านสักที การเอามาให้เจ้า ChatGPT ช่วยดูให้ เราก็อาจรู้ได้ทันทีเลยว่าโค้ดเราผิดที่ตรงไหน ซึ่ง ChatGPT ก็จะอธิบายให้ด้วยว่าทำไมถึงผิด และแนะนำการเขียนโค้ดที่ถูกต้องมาให้ด้วย

สรุปทั้งหมด

ChatGPT ถือว่าเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่น่าจับตามองมากนับจากนี้ เพราะความสามารถของ ChatGPT ไม่ได้เป็น Chatbot ที่ใช้แค่ในการสนทนาโต้ตอบกับมนุษย์อีกต่อไปแล้ว แต่เป็นแหล่งไอเดียชั้นเยี่ยมในการทำงานให้กับเราได้ด้วย หากเรานำไปประยุกต์อย่างถูกที่ถูกทาง

และความสามารถทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ ChatGPT เท่านั้น ใครที่อยากรู้ว่า ChatGPT ทำอะไรได้อีกบ้าง ก็สามารถเข้าไปลองเล่นและใช้เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานได้นะคะ ไม่แน่เจ้า Chatbot ตัวนี้อาจสร้าง Productivity ในการทำงานให้เราเพิ่มได้อีกด้วย :)