นอกจากนั้นเทคโนโลยี AI คาดการณ์ว่าจะเข้ามาช่วยให้การสร้างแคมเปญโฆษณาทั้งบน Google และ Social Media (เช่น Facebook) เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นด้วยระบบการประมวลผลที่มีความแม่นยำ รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลามาจัดการแต่ละขั้นตอนเอง ส่งผลดีต่อนักการตลาดสาย Ads Optimization ทำงานได้ง่ายขึ้น
ถึงตรงนี้น่าจะชัดเจนแล้วนะครับว่าเทคโนโลยี AI เริ่มเข้ามามีบทบาทกับการทำการตลาดดิจิทัลของคุณมากขึ้นทุกวัน เพราะฉะนั้นในปี 2021 นี้หากคุณคือนักการตลาดที่รักการเติบโตก็ต้องหมั่นศึกษาเรื่องเทคโนโลยี AI นี้ไว้ให้มาก ๆ ด้วยนะครับ
2. User Experience จะเข้ามามีส่วนกับ SEO มากขึ้น
นักการตลาดโดยเฉพาะสายคอนเทนต์น่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าการทำ SEO นั้นเป็นเทคนิคที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้ง จะมากน้อยอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการอัปเดต Algorithm ของ Google ที่ออกมา
แต่เรื่องที่จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำ SEO มากขึ้นในปี 2021 (นอกจากเรื่องของ Keyword ที่เรารู้กันอยู่แล้ว) หลายสำนักคาดการณ์ว่าไม่น่าจะหนีพ้นจากเรื่อง User Expereince (UX) หรือการสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานให้กับ User
โดยในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมาตัวเลขผู้ใช้งานของ Social Media บางตัวเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า ด้วยสาเหตุจาก Covid-19 เช่น Twitter และ Instagram ที่ตัวเลข Active User ทั่วโลกทะลุ 1 พันล้านคนไปแล้ว
รวมถึงการแจ้งเกิดของ Social Media มาแรงอย่าง TikTok นั่นทำให้เห็นว่ากระแสของ Social Media เติบโตขึ้นอยู่ตลอดจริง ๆ (ซึ่งทาง Hubspot ก็คาดการณ์ว่าปี 2021 ก็จะเป็นเช่นนี้ต่อไป)
แต่นั่นก็เป็นเหมือนดาบ 2 คมในที่ทางฝั่งแบรนด์ต้องระมัดระวังมากขึ้นในการทำ Social Media Marketing เพราะในปี 2021 นี้ทาง Hubspot และ Talkwalker ได้มีการออกมาคาดการณ์ว่าผู้คนจะเริ่มตระหนักถึงปัญหาสังคมมากขึ้น
จากตัวอย่างที่ชัดที่สุดก็คงเป็นเรื่องของแคมเปญ #StopHateForProfit ที่แบรนด์ใหญ่เริ่มแบนการซื้อโฆษณาบน Facebook และ Instagram เพราะว่าแพลตฟอร์มเหล่านั้นไม่มีมาตรการในการแบนคอนเทนต์ที่มี Hate Speech (เช่น คำพูดเชิงเหยียดสีผิว เหยียดเชื้อชาติ หรือคำพูดรุนแรงต่างๆ) ในช่วงที่กระแส Black Live Matter กำลังมาแรง
ซึ่งแบรนด์ที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่อง #StopHateForProfit ก็เริ่มตั้งแต่ตัวเปิดอย่าง The North Face ตามมาด้วยแบรนด์ดังอีกมากมายเช่น Walmart Stores, Microsoft, Disney, Starbucks, New York Times, Coca-Cola, Patagonia, Adidas, Ben & Jerry's, Unilever และแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมายกว่า 200 แบรนด์
แต่ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นแล้วว่าการทำ Social Media Marketing ในปี 2021 นี้แม้จะเป็นเรื่องเล็ก แต่การที่แบรนด์ออกมารับผิดชอบต่อสังคม และใส่ใจกับสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นแบรนด์ที่มีผู้ติดตามมากใน Social Media ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มใด ถือเป็นสิ่งที่คุณจะละเลยไม่ได้ครับ
4. AR และ VR จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นกับการทำการตลาดในหลายอุตสาหกรรม
ซึ่งนอกจากประโยชน์ในด้านการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานและการขับเคลื่อนการทำการตลาดแล้วการนำเทคโนโลยีทั้ง AR และ VR ยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัยมากขึ้นให้กับแบรนด์ในสายตาของกลุ่มลูกค้าได้อีกด้วย
5. ในปี 2021 การทำ Video Marketing จะได้รับความนิยมมากขึ้นอีก
ข้ามฟากไปที่ฝั่งเทรนด์ของ Social Media กันบ้างในปีที่แล้ว Video Content ก็ยังเป็นสิ่งที่สร้าง Engagement ได้ดีเสมอ ชัดเจนด้วยการแจ้งเกิดของ TikTok ที่เป็นแพลตฟอร์ม Short Video Content ที่ยังได้รับความนิยมมาถึงปัจจุบัน ล่าสุดตัวเลข Active User ก็ทะลุเกินหลัก 800 ล้านคนทั่วโลกไปแล้ว
กลับมาที่แพลตฟอร์มที่เราคุ้นเคยอย่าง Facebook กันบ้างที่การทำ Video Content ยังคงสำคัญต่อการทำการตลาดและการสร้างแบรนด์อยู่เสมอ โดยจากการสำรวจพบว่า การทำ Live Video สามารถสร้าง Engagement ที่มากกว่าให้กับแบรนด์ได้มากถึง 79% (และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้) ถือว่ามากสุดในบรรดาการทำ Video Marketing สำหรับ Facebook เลยทีเดียว
เป็นอันสรุปได้ว่าเทรนด์การทำ Video Marketing ในปี 2021 เป็นเรื่องที่นักการตลาดทุกคนต้องจับตาไว้ให้ดีเพราะตลาด Video Platform มีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด และการทำ Video Marketing ที่มีประสิทธิภาพมากพอ จะสามารถช่วยธุรกิจของคุณให้เข้าใกล้ความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งได้ครับ
สรุปทั้งหมด
สุดท้ายทั้ง 5 เทรนด์ Digital Marketing 2021 ที่ The Growth Master ได้นำมาฝากกันในบทความนี้ ล้วนแต่มีความสำคัญและจะเข้ามามีบทบาทต่อการทำการตลาดในปี 2021 นี้อย่างแน่นอน