“Content marketing is all the marketing that’s left” – Seth Godin Content Marketing ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของการทำการตลาดแบบสมัยใหม่ ในยุคที่ธุรกิจส่วนใหญ่ล้วนเปลี่ยนตัวเองมาอยู่ในโลกดิจิทัล ส่งผลให้การทำคอนเทนต์นั้นกลายเป็นสิ่งที่หลายธุรกิจขาดไม่ได้
แต่แน่นอนครับขนาดระบบ Algorithm ของ Google ที่ส่งผลต่อการทำ SEO ยังมีการเปลี่ยนแปลงกันแทบจะทุกเดือน การทำ Content Marketing ก็เช่นกันครับ ทุกปีเทรนด์หรือพฤติกรรมผู้บริโภคจะมีการเปลี่ยนไปอยู่ตลอด
ทำให้คุณในฐานะนักการตลาดจะต้องตามการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ให้ทันอยู่ตลอดสิ่งใดที่คุณเคยใช้ได้ผลเมื่อปีที่แล้วหรือช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ก็อาจจะต้องเริ่มมีการปรับเปลี่ยนให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และสภาพสังคมในปัจจุบัน
โดยในบทความนี้ The Growth Master ขอพาทุกคนไปศึกษาอีกมุมหนึ่งที่เปรียบเสมือนเป็น “จุดบอด” ของการทำ Content Marketing ที่คุณต้องหลีกเลี่ยงหากต้องการให้ธุรกิจเติบโต (ฉบับครึ่งปีหลัง 2020) หากพร้อมแล้ว ไปติดตามกันได้เลยครับ
Content Marketing ในปี 2020 คุณรู้จักคำนี้ดีพอหรือยัง ? ผมเชื่อว่านักการตลาดทุกท่านน่าจะพอเข้าใจความหมายของคำว่า Content Marketing กันมาบ้างแล้ว โดยสำหรับนักการตลาดมือใหม่ท่านใดที่ยังไม่เข้าใจ สามารถกดเข้าไปอ่านได้ที่ “บทความนี้” เลยครับ
ภาพจาก contentwriter โดยในปี 2020 นี้นิยามความหมายของ Content Marketing ก็ยังคงมุ่งเน้นไปที่การผลิตคอนเทนต์ ที่หวังผลทางการตลาดได้ โดยคำว่า “คอนเทนต์” ในที่นี้ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ในรูปแบบของงานเขียนเสมอไป แต่สามารถอยู่ในสื่อที่เป็นเสียงหรือภาพก็ได้
ซึ่งเป้าหมายในการทำ Content Marketing ฉบับปี 2020 นี้คือการดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ให้เกิดการรับรู้ (Awareness) และจดจำ (Recognization) ในตัวแบรนด์มากขึ้น ไม่แปลกที่ธุรกิจหลากหลายชนิดจะหันมาเริ่มลงทุนกับการทำ Content Marketing มากขึ้นในปีนี้ (และในอนาคต)
ถึงเวลาที่คุณต้องเริ่มลงทุนกับ Content Marketing ให้มากขึ้น จากการสำรวจของ Content Marketing Institute พบว่านักการตลาดกว่า 92% มีความคิดเห็นว่าการทำ Content ถือเป็นอีกหนึ่งทรัพย์สินทางธุรกิจ ที่จะอยู่กับบริษัทคุณไปตลอด เพราะฉะนั้นนักการตลาดควรหันมาลงทุนและให้ความสำคัญกับการทำคอนเทนต์ เพื่อเป้าหมายในการเพิ่มค่า ROI ให้กับองค์กรต่อไป
และสิ่งที่หลายคนอาจจะลืมนึกไปนั่นก็คือ การลงทุนกับ Content Marketing ก็เหมือนกับการที่คุณจ้างพนักงานขาย ที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวัน เพื่อช่วยเหลือและให้ความรู้แก่ลูกค้าคุณได้ตลอดเวลา
ภาพจาก seobrowser และยังเป็นวิธีที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่จะเป็นลูกค้าของคุณในอนาคต ได้รับข้อมูลสำหรับสิ่งที่พวกเขากำลังค้นหาทางออนไลน์ จากนั้นลูกค้าเหล่านั้นจะมาหาคุณเมื่อพวกเขาพร้อมที่จะซื้อสินค้าและทำการปิดการขายได้ในที่สุดนั่นเอง
ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้นักการตลาดเกือบทั้งหมดต่างออกมายอมรับถึงประสิทธิภาพของการทำ Content Marketing ว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่ากับการลงทุน หากต้องการให้ธุรกิจเติบโตและสร้างยอดขายได้มากขึ้นนั่นเอง
จุดบอดของการทำ Content Marketing ที่คุณต้องหลีกเลี่ยง (ฉบับครึ่งปีหลัง 2020) แม้ในหัวข้อที่ผ่านมาอาจฟังดูง่ายดายและดูคุ้มค่ากับการลงทุน แต่ช้าก่อนครับ เพราะการทำ Content Marketing ในฉบับปี 2020 คุณยังต้องใส่ใจกับอะไรที่มากกว่านั้น
โดยเฉพาะต้องคำนึงถึง “จุดบอด” เพื่อเป็นการเช็คให้ละเอียดว่าการทำ Content Marketing ของคุณกำลังเดินมาอย่างถูกต้องหรือเปล่า ไปลองเช็คกันได้เลยครับ
1. เนื้อหาซ้ำๆ คือสิ่งแรกที่เป็นจุดบอด Not creating reusable content หรือแปลเป็นไทยก็คือ ไม่ควรสร้างคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาซ้ำกันบ่อยๆ จริงอยู่ครับที่การลงทุนสำหรับ Content Marketing คุณก็อยากใช้คอนเทนต์ที่ได้มาให้คุ้มค่าที่สุดแต่การลงอะไรที่ซ้ำๆ กันตลอด อาจทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกด้านลบ (เบื่อหน่าย) กับแบรนด์คุณได้
ทางแก้ไขก็คือคุณต้องรู้จักใช้คอนเทนต์ที่มีอยู่มาทำการ Tranformation ให้เข้ากับแพลทฟอร์มนั้นๆ เช่นคุณเขียนบทความคุณภาพ (Valueable Content Blog) ขึ้นมาได้ 1 บทความ คุณก็อาจจะลองยกประเด็น ใน Subtopic หรือหัวข้อย่อยของบทความนั้น
มาทำการสร้างเป็น Facebook Post , Instagram Post โดยมีการเปลี่ยนวิธีเล่าเรื่องให้ดูเข้ากับ Social Media เพื่อดึงดูดและสร้าง Engage กลุ่มเป้าหมายมากขึ้น (แอบกระซิบว่าวิธีนี้ The Growth Master ของเราก็ใช้อยู่)
เนื้อหาจาก Blog เรื่อง Page Speed Optimization ที่เราเอามาแปรรูปเป็น Social Media Post
เห็นไหมครับว่าใน 1 Content เรายังสามารถมาแปรรูปให้กลายเป็นอีกหลายคอนเทนต์ และที่สำคัญยังสร้างประโยชน์ให้ธุรกิจได้ไม่แพ้กันเลย
2. ไม่ควรสร้าง Content โดยไม่คำนึงถึง Funnel หรือ Loops Funnel หรือ Loop คือ Framework ของกระบวนการขายที่สามารถเปลี่ยนจากคนแปลกหน้าให้กลายเป็นลูกค้า โดยไล่ตั้งแต่การสร้าง Awareness , การสร้าง Decision ไปจนถึงการสร้าง Action หรือ Referral ให้กับแบรนด์
ภาพจาก ambercreative ซึ่งจุดบอดของการทำ Content Marketing ในข้อนี้ก็คือ ถ้าหากคุณไม่ได้คำนึงถึงขั้นตอนต่างๆ ใน Funnel , Loops หรือมัวแต่สร้าง Content ที่มุ่งเน้นไปทางการสร้าง Engagement อย่างเดียวนั่นแสดงว่าคุณกำลังเดินผิดก้าวแล้วล่ะครับ
เพราะการทำ Content Marketing ในปี 2020 นี้คุณควรต้องคำนึงถึง Sales Funnel เป็นหลักโดยเริ่มจากการสร้าง Content ที่เน้นไปในแต่ละ Stage อย่างทั่วถึงเช่น
Stage Awareness หรือการรับรู้แบรนด์ก็ควรสร้าง Content ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและต้องคำนึงถึงเรื่อง SEO ด้วย (ในกรณี Blog)Stage Interest หรือการสร้างความน่าสนใจ ก็ควรเป็น Content ที่มีคุณค่ามากพอที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายสนใจ เช่น Valueable Content ต่างๆ (E-Book , Reseach & Case Study Content)Stage Decision หรือการโน้มน้าวใจ ก็จะมุ่งเน้นไปที่การเขียน E-Mail Marketing หรือเรื่องของ Copywriting ต่างๆ เป็นต้น3. ทุกวันนี้คุณมีกระบวนการทำ Content Approval หรือยัง Content Approval หรือกระบวนการตรวจสอบคอนเทนต์ ควรเป็นสิ่งที่นักการตลาดคอนเทนต์ควรหันมาให้ความสำคัญครับ เพราะการจะสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดีได้ ต้องผ่านการตรวจสอบจากบุคคลที่เกี่ยวข้องก่อนเป็นอันดับแรก
เช่น การตรวจสอบจากลูกค้า (ในกรณีที่เป็น Marketing Agency ) หรือการตรวจสอบจากคนในทีมเช่น Project Manager เพื่อจะได้ช่วยปรับเนื้อหาที่คุณยังขาด , ผิดพลาดไปและทำให้คอนเทนต์ตรงกับวัตถุประสงค์หลักในการสื่อสาร
โดยคุณอาจจะลองทำเป็น Draft ขึ้นมาก่อนเพื่อให้ทีมหรือลูกค้าเห็นแนวทางของคอนเทนต์ เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว ก็นำมา Comments ที่ได้มาปรับปรุงก่อนจะเริ่มเขียนจริง แม้วิธีนี้อาจจะทำให้เสียเวลาในการทำงานมากขึ้น แต่ก็ช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไปได้เยอะครับ
4. อย่าลืมให้ความสำคัญกับ User Generated Content “Consumers find UGC 9.8x more impactful than influencer content when making a purchasing decision” - Stackla User Generated Content (UGC) คือการให้ลูกค้าเป็นผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ด้วยตัวเอง โดยที่คอนเทนต์ที่ว่านั้นจะต้องเป็นคอนเทนต์ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับแบรนด์หลักได้ (โดยที่เราไม่เสียเงิน)
โดยคอนเทนต์แบบ UGC ที่ว่าเช่นคอนเทนต์ในลักษณะของการรีวิวจากผู้ใช้งานจริง ซึ่งจะแตกต่างกับการจ้าง Influencer นะครับเพราะ Influencer จะสร้างคอนเทนต์ที่ผ่านการตรวจสอบและกำหนด Key Message จากแบรนด์มาแล้ว แต่ UGC จะมาจากลูกค้าของคุณจริงๆ 100%
ภาพจาก brandmentions ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับว่า User Generation เป็นลักษณะของคอนเทนต์สามารถสร้าง Decision ในการปิดการขายได้ดีที่สุด ซึ่งธุรกิจไหนที่มี Product/Service ที่เป็นชิ้นเป็นอัน ถือว่าห้ามละเลยเด็ดขาดเลยครับหากต้องการให้การทำ Content Marketing ให้ธุรกิจเติบโต
TIPS : สำหรับ User Generated Content นักการตลาดควรเลือก Platform ในการสื่อสารกับลูกค้าให้ถูกต้องด้วย (Social Media , Website)
5. ขาดการเขียนคอนเทนต์โดยไม่คำนึงถึง SEO ช่องทาง Search Engines ช่วยเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับช่องทางการตลาดอื่นๆ ดังนั้นการลงทุนใน SEO ควรเป็นสิ่งสำคัญของคุณหากต้องการธุรกิจเติบโตได้มากกว่าด้วย Content Marketing
หากธุรกิจของคุณทำ Content Marketing ผ่านช่องทางเว็บไซต์ (เช่น Blog , Landing Page) การเขียนคอนเทนต์ของคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องโฟกัสกับการทำ SEO เพื่อทำให้โอกาสที่กลุ่มเป้าหมายจะมาเจอบทความของคุณ ผ่านการค้นหาทาง Google มีมากขึ้น
โดยวิธีการเขียนคอนเทนต์แบบคำนึงถึง SEO มีด้วยกันดังนี้
การใส่ Keyword (คำค้นหา) ลงไปใน 100 คำแรกของคอนเทนต์ การเขียน Meta Tags , Description ของเว็บไซต์ให้ดึงดูดและมี Keyword อยู่ในนั้น การใส่ Heading (H1 , H2 , H3) ลงไปในบทความ การเขียน ALT Tags (ในกรณีที่บทความมีรูปภาพ) การทำ SEO On Page Optimization ในหน้าบทความที่ได้คุณภาพ การเขียนคอนเทนต์แบบ Topic Cluster เพื่อให้เกิด Hyperlink เชื่อมกันทั้งหมด 6. ขาดการเช็ค Performance Review ของการทำคอนเทนต์ ถือเป็นจุดบอดในการทำคอนเทนต์ที่นักการตลาดหลายคนอาจจะพลาดไป และยังทำให้การทำ Content Marketing ของคุณยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้สักที
การเช็ค Performance Review หรือการสำรวจสถิติข้อมูลหลังจากได้เผยแพร่ เช่นยอด Traffic , Reach , Enagement , Conversion (จากระบบหลังบ้านของแต่ละแพลทฟอร์ม) เพื่อนำข้อมูลที่ได้มา ทำการวิเคราะห์เพื่อหาทิศทางของการทำ Content Marketing ในแคมเปญต่อไป
เพราะหากขาดการ Performance Review อาจทำให้คุณไม่ได้พบถึงข้อผิดพลาดและไม่ได้พบว่าคอนเทนต์แบบไหนที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้มากที่สุดครับ
ภาพจาก aimc สรุปทั้งหมด การทำ Content Marketing ถือเป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับพฤติกรรมผู้บริโภค ณ ตอนนั้นรวมไปถึงสภาพสังคมที่เกิดการเปลี่ยนแปลง (เช่นช่วง Covid-19 ที่ผ่านมา)
เพราะฉะนั้นในฐานะนักการตลาดอย่างคุณจึงต้องตามให้ทันทุกการเปลี่ยนแปลงของกลยุทธ์นี้ เพื่อทำให้การสร้างสรรค์ Content และการติดตามผลลัพธ์ของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด
โดย The Growth Master หวังว่า Checklist จุดบอดของการทำ Content Marketing ทั้ง 6 ข้อที่เราได้นำเสนอไปนั้นจะมีประโยชน์ต่อการทำ Content Marketing ของธุรกิจคุณในอนาคตนี้และช่วยสร้างการเติบโตให้องค์กรของคุณอย่างยั่งยืนนะครับ